เสียงสะท้อนของกรุงเทพมหานครในตะวันออกกลางและทั่วโลก เลือกตั้งผู้ว่ากทม65

เสียงสะท้อนของกรุงเทพมหานครในตะวันออกกลางและทั่วโลก

 กทม.เลือกผู้ว่าฯสอบเลือกตั้งส.ส.

กรุงเทพฯ เลือกผู้ปกครองเมื่อวันอาทิตย์ ในการลงคะแนนเสียงครั้งใหญ่ครั้งแรกนับตั้งแต่การประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยเขย่าประเทศไทยในปี 2563 เพื่อเรียกร้องให้มีการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์และสังคม การเลือกตั้งประธานาธิบดีย้อนหลังไปถึงปี 2013 หลังจากนั้น อำนาจในอาณาจักรก็เข้ามามีอำนาจในการทำรัฐประหาร และเขาได้โค่นล้มผู้ปกครอง ซึ่งเป็นหนึ่งในคนของเขาที่เป็นลูกน้องของเขา

การลงคะแนนเสียงในรอบเดียวเป็นการทดสอบสำหรับนายพลพัตต์ชิสต์ ซึ่งถูกทำให้ชอบธรรมจากการเลือกตั้งสภานิติบัญญัติที่มีการโต้เถียงในปี 2019 และไม่เป็นที่นิยมในหมู่คนหนุ่มสาวที่แสวงหาเสรีภาพ เขาครบวาระในเดือนมีนาคมปีหน้า ดังนั้นควรมีการเลือกตั้งทั่วไปในตอนนั้น กทม. 4.4 ล้านคนได้รับเชิญให้ลงคะแนนเสียง รวมทั้งผู้มีสิทธิเลือกตั้งครั้งแรกประมาณ 700,000 คน ที่สามารถลงคะแนนเลือกจำนวนผู้สมัครรับเลือกตั้งที่ต่อต้านรัฐบาล

การเมืองโพลาไรซ์รอบกองทัพ

ในระหว่างการหาเสียง ผู้เข้าแข่งขันหลักมุ่งเน้นไปที่ความกังวลในแต่ละวันของชาวกรุงเทพฯ โดยสัญญาว่าจะทำให้มหานครที่มีมลพิษอย่างหนักและแออัดซึ่งมีประชากรประมาณ 10 ล้านคนน่าอยู่มากขึ้น หลายคนยังคงสงสัย “ฉันไม่กระตือรือร้นเกี่ยวกับการเลือกตั้ง พวกเขาจะแทบไม่เปลี่ยนเมือง AFP รายงาน Nat อายุ 28 ปีหลังจากที่เขาฝากคะแนนไว้ที่กล่องลงคะแนน

นับตั้งแต่รัฐประหาร 2549 และ 2557 การเมืองไทยถูกแบ่งแยกระหว่างพรรคที่สนับสนุนและต่อต้านกองทัพ เมืองใหญ่มีความแตกต่างอย่างมากจากภูมิภาคส่วนใหญ่ในราชอาณาจักร พวกเขายากจนกว่า มีเกษตรกรรมมากกว่า และมีการศึกษาน้อย ในปี 2020 การชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยครั้งใหญ่ได้เขย่าราชอาณาจักร โดยผู้ประท้วงเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออก การร่างรัฐธรรมนูญใหม่ที่เห็นชอบต่อกองทัพ และการปฏิรูประบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ที่เข้มงวดยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องต้องห้าม แม้แต่ที่นั่น

ผลการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดอาจตกในเย็นวันอาทิตย์และจะต้องได้รับการรับรองจาก กกต.